วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สายพันธุ์โคนม

 โคพันธุ์โฮลสไตน์ (Holestein-Friesian)
โคเพศผู้พันธุ์โฮลสไตน์-ฟรีเชี่ยน          โคพันธุ์โฮลสไตน์ หรือพันธุ์ฟรีเชี่ยน หรือพันธุ์ขาว-ดำ เป็นโคนมสายพันธุ์ยุโรป (Bos taurus)มีแหล่งกำเนิด
จากทางตอนเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อนำโคพันธุ์นี้ไปเลี้ยงในประเทศอังกฤษ จึงได้ชื่อว่าพันธุ์ฟรีเชี่ยน
(Friesian)  แต่ในทวีปยุโรปบางประเทศเรียกโคพันธุ์นี้ว่าพันธุ์ดำและขาว (Black and White) เป็นโคที่นิยมเลี้ยง
และแพร่กระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมากที่สุด สามารถให้ปริมาณน้ำนมมากที่สุดในบรรดาโคนมทุกสายพันธุ์
   
     ในประเทศไทยได้มีการนำเข้ามาเลี้ยงตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหน่วยส่งบำรุงกำลังของกองทัพญี่ปุ่น
ต่อจากนั้นก็มีผู้นำเข้ามาจากฮ่องกงและออสเตรเลีย ฯลฯ กรมปศุสัตว์ได้นำโคพันธุ์โฮลสไตน์-ฟรีเชี่ยนมาใช้เป็นพันธุ์
หลักในการผลิตและปรับปรุงพันธุ์โคนมของประเทศหลังจากปี พ.ศ. 2499 เป็นต้นมา



โคเพศเมียและลูกโคพันธุ์โฮลสไตน์-ฟรีเชี่ยน
: ลักษณะประจำพันธุ์ :
        -มีสีขาวและดำตัดกันอย่างชัดเจน โดยการกระจายสีที่นิยมกันคือ บริเวณขาตั้งแต่ข้อเข่าลงไป ส่วนท้องและ
เต้านมเป็นสีขาว ส่วนศีรษะและลำตัวมีสีขาวสลับดำในสัดส่วนที่เหมาะสม
        -เป็นโคที่มีขนาดโครงร่าง (frame size) ใหญ่กว่าโคนมพันธุ์อื่น ๆ โคเพศเมียมีลักษณะลำตัวเป็นรูปทรง
สามเหลี่ยม กล่าวคือ ส่วนและไหล่เรียวบาง ส่วนท้ายโดยเฉพาะเต้านมมีขนาดใหญ่ได้รูปทรงงดงาม
        -สามารถให้น้ำนมโดยเฉลี่ยได้มากกว่า 8,000 กิโลกรัมต่อระยะการให้น้ำนม (305 วัน) และมีไขมันเฉลี่ย
3.5% ขึ้นไป
        -มีอายุถึงวัยเจริญพันธุ์ (Purberty) เร็วคือ ระหว่าง 12-15 เดือน สามารถผสมพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุ 18 เดือน
สามารถให้ลูกตัวแรกและให้น้ำนมได้เมื่ออายุ 2 ปี โตเต็มที่เมื่ออายุ 6 ปี
        -โคเพศผู้โตเต็มที่มีน้ำหนัก 800-1,000 กิโลกรัม โคเพศเมียหนัก 600-700 กิโลกรัมเต้านมที่ใหญ่ทำให้สามารถผลิตน้ำนมได้มาก
        -ไม่ทนร้อน ถ้าอุณหภูมิของอากาศสูงเกินกว่า 26 องศาเซลเซียส โคพันธุ์นี้จะหอบ และไม่ค่อยกินอาหาร
ทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง
        -ไม่ทนแมลง โดยเฉพาะเห็บ มักป่วยเป็นโรคพยาธิในเม็ดเลือด (Blood parasite)ได้ง่าย
v
v
v
v



      โคพันธุ์เจอร์ซี่ (Jersey)

         โคพันธุ์เจอร์ซี่ (Jersey) เป็นโคที่ให้นมซึ่งมีไขมันมากที่สุด ถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ทางเกาะเล็กๆ ใน
ช่องแคบทางชายฝั่งประเทศฝรั่งเศส โคพันธุ์เจอร์ซี่เป็นโคนมพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีรายงานเกี่ยวกับโคพันธุ์นี้
มาเป็นเวลากว่า 6 ศตวรรษ ได้รับการจดทะเบียนพันธุ์ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1850 แต่ทว่า
ได้มีการเลี้ยงโคพันธุ์นี้มาก่อนหน้านี้แล้ว โคพันธุ์เจอร์ซี่เป็นโคที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมโคนมในสหรัฐอเมริกา
และมีการกระจายสายพันธุ์ไปอย่างแพร่หลายทั่วโลก เป็นโคขนาดเล็ก น้ำหนักแรกเกิดเฉลี่ยประมาณ 25 กิโลกรัม
โคเพศผู้พันธุ์เจอร์ซี่
โคเพศเมียพันธุ์เจอร์ซี่โคตัวผู้ที่มีความสมบูรณ์จะหนักประมาณ 680 กิโลกรัม และตัวเมียประมาณ 430 กิโลกรัม ปริมาณน้ำนมไม่
มากนัก ประมาณ 3,000 กิโลกรัมต่อระยะการให้นม รสชาติอร่อย ปริมาณไขมันในนมสูงกว่า 5% ปริมาณ
โปรตีน, แคลเซี่ยม และแร่ธาตุที่สำคัญสูงกว่าโคนมสายพันธุ์อื่น ๆ ต่างประเทศจึงนิยมเลี้ยงเพื่อผลิตเนย
เป็นโคที่กินหญ้าเก่ง สามารถเลี้ยงแบบปล่อยทุ่งได้ดีพอสมควร ตาโปน หน้าหัก จมูก พู่หางมีสีดำ รูปร่างกระทัดรัด
สวยงาม สีของตัวเมียจะเป็นสีน้ำตาลปนเหลือง ตัวผู้จะมีสีน้ำตาลค่อนข้างเข้ม
      โคพันธุ์บราวน์สวิส(Brown Swiss)
โคเพศผู้พันธุ์บราวน์สวิสโคพันธุ์บราวน์สวิส(Brown Swiss) มีถิ่นกำเนิดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์
แต่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ในสหรัฐอเมริกาให้มีรูปทรงเข้าแบบของโคนม
มากขึ้น และให้นมดีขึ้นกว่าแหล่งกำเนิด เป็นโคขนาดใหญ่และมีโครงร่างที่
เก้งก้างกระดูกใหญ่ มีสีเหลืองขาว มีวงขาวรอบปาก,เต้านม,กระหม่อม,
แนวหลัง โคตัวผู้ตัวโตเต็มที่หนักประมาณ 800-900 กิโลกรัม
โคตัวเมียเต็มที่หนักประมาณ 500-600 กิโลกรัม ให้นมเฉลี่ย 4,500
กิโลกรัมต่อระยะการให้นม เปอร์เซ็นต์ไขมันในน้ำนมประมาณ 4%
เปอร์เซ็นต์โปรตีนในน้ำนมประมาณ 3.5% องค์ประกอบในน้ำนมมีมาก
เหมาะสำหรับทำเนยหรือผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ ข้อดีของโคพันธุ์นี้คือ
ทนต่ออากาศร้อนได้ดีเมื่อเทียบกับโคยุโรปพันธุ์อื่น ๆ
โคเพศเมียพันธุ์บราวน์สวิส
      โคพันธุ์เรดเดน (Red Dane)
โคเพศเมียพันธุ์เรดเดนโคพันธุ์เรดเดน (Red Dane) นำเข้ามาเลี้ยงในเมืองไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยความ
ช่วยเหลือของรัฐบาลเดนมาร์ก ที่ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และได้แพร่กระจายอยู่ในกลุ่ม
โคนมเขตสระบุรีและใกล้เคียงมากพอสมควร เป็นโคที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และเจ้าเนื้อพอสมควร มีสีแดงเข้มตลอดทั้ง
ตัว เป็นทั้งโคเนื้อและโคนม โคตัวเมียให้นมเฉลี่ย 4,500 กิโลกรัมต่อระยะการให้นม น้ำนมมีเปอร์เซ็นต์ไขมัน
4% ถ้าไม่รีดนมจะให้เนื้อมาก สามารถเลี้ยงให้อ้วน เพื่อขายเป็นโคเนื้อได้ง่าย ปัจจุบันในเมืองไทยไม่ค่อยได้รับ
ความนิยมเท่ากับพันธุ์ขาวดำ
      โคพันธุ์ซิมเมนทอล(Simmental)
โคพันธุ์ซิมเมนทอล(Simmental) เป็นโคสายพันธุ์ยุโรป (Bos Taurus) ที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศ
สวิสเซอร์แลนด์ แต่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ในประเทศเยอรมันกว่า 2 ศตวรรษ โดยเน้นไปที่คุณสมบัติของความเป็น
โคทวิประสงค์ (Dual purpose) กล่าวคือ เป็นโคพันธุ์ที่มีโครงร่างใหญ่ สามารถให้ทั้งเนื้อและนมที่ดี
และในระยะ 30 ปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมจากประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดานำไปเลี้ยงเป็นสายพันธุ์หลักพันธุ์
หนึ่งของประเทศและแพร่พันธุ์ในเชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวางสู่ภูมิภาคต่าง ๆ จนอาจกล่าวได้ว่า ทุกวันนี้มีสายพันธุ์ของ
โคซิมเมนทอลทั้งเป็นพันธุ์แท้และลูกผสมแพร่กระจายอยู่ทั่วโลกมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง
โคเพศผู้พันธุ์ซิมเมนทอล
โคเพศเมียพันธุ์ซิมเมนทอล: ลักษณะประจำพันธุ์ :
        -โครงร่างเป็นสี่เหลี่ยม ช่วงลำตัวยาวและลึก บั้นท้ายใหญ่ ช่วงขาสั้นและแข็งแรง
        -ลำตัวมีสีแดง (น้ำตาล-แดงเข้ม ไปจนถึงสีฟางหรือเหลืองทอง) เป็นส่วนมากของร่างกาย โดยมีสีขาวกระจาย
แทรกอยู่ทั่วไปตามส่วนอก ท้อง และขา
        -ศีรษะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ใบหน้าเป็นสีขาว และมักมีสีแดงรอบนัยน์ตา
        -สามารถให้น้ำนมเฉลี่ย 5,095 กิโลกรัมต่อระยะการให้นม เปอร์เซ็นต์ไขมันในน้ำนมประมาณ 3.99% โปรตีนในน้ำนมประมาณ 3.99% อัตราการ
เจริญเติบโตตั้งแต่แรกเกิดเมื่อได้รับการเลี้ยงและการจัดการที่ดีประมาณ 1,259 กรัมต่อวัน
        -อายุถึงวัยเจริญพันธุ์ (Puberty) ประมาณ 18-20 เดือน
        -โคตัวผู้โตเต็มที่มีน้ำหนักประมาณ 1,100-1,300 กิโลกรัม โคตัวเมียโตเต็มที่หนักประมาณ 600-850 กิโลกรัม   
      โคพันธุ์ซาฮีวาล (Sahival)
        โคพันธุ์ซาฮีวาล (Sahival) เป็นโคนมที่ดีที่สุดของอินเดีย ถิ่นกำเนิดอยู่ในแคว้นปัญจาบ ประเทศปากีสถาน
รูปร่างคล้ายเรดซินดี้ แต่มีขนาดใหญ่กว่า ลำตัวยาวและลึก ค่อนข้างเจ้าเนื้อ เขาสั้น ตัวมีสีแดง และมีแต้มสีน้ำตาลขาว
ทั่วไป เขาสั้นซึ่งยาวประมาณ 10 เซนติเมตร คอสั้น หูใหญ่และพับตก เหนียงคอหย่อนยาน ตะโหนกใหญ่และมักเอียง
ข้าง บั้นท้ายใหญ่และกว้าง หางยาวจนพู่หางระพื้นดิน เต้านมใหญ่และมักหย่อน เป็นโคขนาดปานกลาง ตัวผู้มีน้ำหนัก
ประมาณ 500-600 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 400-450 กิโลกรัม แม่โคให้นมเฉลี่ย 2,000
กิโลกรัมต่อระยะการให้นม และมีเปอร์เซ็นต์ไขมันในน้ำนม 4.3% ให้ลูกครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 3 ปี
โคเพศผู้พันธุ์ซาฮีวาล
      โคพันธุ์เรดซินดี้ (Red Sindhi)
โคเพศผู้พันธุ์เรดซินดี้       โคพันธุ์เรดซินดี้ (Red Sindhi) เป็นโคที่มีชื่อเสียงของประเทศอินเดียและปากีสถาน มีขนาดค่อนข้างเล็ก
ตัวผู้หนักประมาณ 450-500 กิโลกรัม ตัวเมียหนัก 300-350 กิโลกรัม ลักษณะที่แตกต่างจากซาฮีวาลคือ
รูปร่างจะหนาแน่นกว่า บั้นท้ายจะกลมกว่า ลูกโคเมื่อเกิดมีน้ำหนักตัวประมาณ 20 กิโลกรัม รูปร่างค่อนข้างลึกและ
หนา บั้นท้ายกลมและลาดโค้ง สีแดงทั้งตัว บางตัวสีอ่อนจนเกือบเป็นสีขุ่น อาจมีจุดหรือด่างขาวที่เหนียงคอ
และหน้าผากหัวและหน้าผากกว้างใหญ่ โคนเขาหนา หูยาวปานกลางและพับตก มีหนังหลวมมาก พื้นท้องและเหนียงคอ
หย่อนมาก เต้านมใหญ่แต่ค่อนข้างหย่อน หัวนมค่อนข้างใหญ่ ตะโหนกใหญ่แต่ไม่เท่าพันธุ์ซาฮีวาล แม่โคให้นมเฉลี่ยได้
ประมาณ 1,500-2,000 กิโลกรัมต่อระยะการให้นม หรือให้นมประมาณวันละ 5-8กิโลกรัมเริ่มให้นมช้า
คือ เริ่มให้นมเมื่ออายุ 3 ปีขึ้นไป ทนต่ออากาศร้อนได้ดี ข้อเสียของโคพันธุ์นี้คือ ในการให้นมต้องให้ลูกโคกระตุ้นเร้า
ให้แม่โคปล่อยน้ำนม เต้านมเป็นรูปกรวยและหัวนมรวมเป็นกระจุก ทำให้รีดนมได้ยาก ขนาดของหัวนมใหญ่เกินไป
ถ้าทำการหย่านมลูก แม่โคจะหยุดให้นม
ที่มา : http://www.dld.go.th/splb_lbr/pubdoc2.html#Dairy_cow

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น